สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะได้ แค่รู้จักความฉลาดทั้ง 8 ด้าน - Maxbiocare Thailand
สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะได้ แค่รู้จักความฉลาดทั้ง 8 ด้าน
4 พฤศจิกายน 2019




เลี้ยงลูกให้เป็นอัจฉริยะได้ ไม่ใช่เรื่องยาก หากพ่อแม่รู้จักลูก เพราะในโลกนี้คงไม่มีใครที่เก่งในทุกด้าน แต่ละคนเกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ดังนั้นพ่อแม่ต้องรู้จักสังเกตลูก ว่าลูกเราเก่งอะไร สนใจอะไร และหาความสามารถของลูกให้เจอแล้วส่งเสริมให้ถูกทาง ตามทฤษฎีพหุปัญญา 



ความฉลาดทั้ง 8 ด้าน คืออะไร ?






ความฉลาดทั้ง 8 ด้านตามทฤษฎีพหุปัญญา คิดค้นขึ้นโดย Dr. Howard Gardner ในปี คศ. 1983 เพื่อชี้ชัดถึงมโนทัศน์ของความฉลาด และแจกแจงวิธีวัดความฉลาด ซึ่งมีหลากหลาย ภาษาไทยเรียก “พหุปัญญา” ว่าเป็นวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง

ทฤษฎีของเขาอธิบายว่า “ไอคิว (IQ)”  นั้นไม่เพียงพอที่จะชี้นำไปสู่การแสดงความสามารถของมนุษย์ที่มีมากมายหลากหลาย ในความคิดของเขา เด็กที่ฝึกคูณเลข หรือ คณิตศาสตร์ ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่จำเป็นว่าจะฉลาดกว่าคนที่คิดเลขไม่ค่อยได้ เด็กคนที่สองอาจมีเก่งในด้านอื่นกว่าก็ได้

Dr. Howard Gardner เชื่อว่าความฉลาดของคนมีหลายด้าน ซึ่งต่างจากความเชื่อของคนทั่วไป ที่มักจะมองว่าคนที่ฉลาดก็คือ คนที่เรียนเก่ง พูดเก่ง มีเหตุผลหรือคิดเลขข้อที่ยาก ๆ ได้ ตามทฤษฏีนี้ความฉลาดมีถึง 8 ด้านด้วยกัน มีอะไรกันบ้าง มาดูกันค่ะ  



 

ความฉลาดด้านภาษา

 

 

เด็กที่มีความฉลาดด้านภาษา สามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามักจะสนุกกับการต่อคำศัพท์และเกมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ในขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชอบโคลงกลอน เพลง และนิทาน เด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นนักพูดและนักเล่าเรื่องที่เก่ง

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านภาษา คือ จำและคิดเป็นภาษาหรือคำศัพท์ อธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองได้ดี

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านภาษา

 

1.  มีนิสัยรักการอ่าน ติดหนังสือ ชอบเขียน ชอบพูด สามารถเล่าเรื่องต่าง ๆ ได้ดี

2. มักจะได้ยินเสียงของคำก้องอยู่ในหูก่อนที่จะได้อ่าน พูด หรือเขียน  

3. จำชื่อสถานที่ เรื่องราว รายละเอียดต่าง ๆ ได้ดี

4. เจ้าบทเจ้ากลอน มีอารมณ์ขัน ตลก ชอบเล่นปริศนา คำทาย

5. ชอบพูดเล่นคำ สำนวน คำผวน คำพ้อง

6. ชอบเรียนวิชาภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ มากกว่าคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านภาษา

 

1.  สนับสนุนให้ลูกอ่านหนังสือ และฝึกการเขียนโดยอาจจะเขียนเรื่องสั้น ๆ ให้พ่อแม่อ่าน หรือเขียนไดอารี่ทุกวัน

2. สอดแทรกด้วยการหากิจกรรมฝึกภาษาให้เล่น เช่น เกมต่อคำ ครอสเวิร์ด เป็นต้น

3.  เปิดโอกาสให้ลูกได้พูด แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ

 

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็น นักพูด นักเล่านิทาน นักการเมือง กวี นักเขียน บรรณาธิการ นักหนังสือพิมพ์ ครูสอนภาษา เป็นต้น

 

 

 


ความฉลาดด้านการใช้ตรรกะและการคำนวณ

 

 

เด็กที่มีความฉลาดทางด้านนี้ สามารถนำตรรกะมาแก้ไขปัญหา จำแนกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบแบบแผนได้ นอกจากนั้น ยังชื่นชอบในการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ และเรียนรู้ปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ อีกด้วย เด็กที่ฉลาดทางด้านนี้จะชอบเล่นเกมส์ที่ต้องแก้ปัญหาทุกชนิด และสามารถเชื่อมโยงเหตุและผลของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ คือ สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลได้ดี เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อน เด็กสามารถแยกแยะ จัดลำดับและเข้าใจรูปแบบของสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านการใช้ตรรกะและการคำนวณ

 

1.     ชอบทดลองแก้ปัญหา สนุกที่ได้ทำงานกับตัวเลข หรือเกมคิดเลข การคิดเลขในใจ เป็นต้น

2.     ชอบและมีทักษะในการใช้เหตุผล การซักถามปัญหาให้คิดเชิงเหตุผล

3.     ชอบทำตามสั่ง ทำอะไรที่เป็นระบบระเบียบตามลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน

4.     สนใจข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และวิทยาการต่าง ๆ

5.     ชอบค้นหาเหตุผลมาหักล้างหรือวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้อื่น

6.     เชื่อถือเฉพาะแต่สิ่งที่อธิบายได้ มีเหตุผลเพียงพอ

7.     ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านการใช้ตรรกะและการคำนวณ

 

1.     ฝึกให้เล่นเกมที่ต้องใช้การคิดคำนวนเช่น เกมตัวเลข หรือไพ่

2.     สนับสนุนให้ลูกทำการทดลองเพื่อหาคำตอบของสิ่งต่าง ๆ

3.     ฝึกทักษะทางด้านการใช้เหตุผล กาารแก้ปัญหา หัดให้เล่นปัญหาเชาว์

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นนักบัญชี นักคณิตศาสตร์ นักตรรกศาสตร์ โปรแกรมเมอร์ นักวิทยาศาสตร์ ครู-อาจารย์ เป็นต้น

 

 

 

ความฉลาดด้านธรรมชาติ

 

 

เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่ชอบผจญภัยในโลกกว้างตั้งแต่เด็ก จึงมักเห็นเขาชอบสำรวจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ พวกเขายังสนใจในเรื่องของต้นไม้และสัตว์ต่าง ๆ อย่างมาก

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ คือ สังเกตเห็นรูปแบบและคุณลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ชอบจัดระบบสิ่งของที่สะสมไว้มีความสามารถในการแยกแยะระหว่างสิ่งของในหมวดเดียวกันและสังเกตเห็นความแตกต่างเล็ก ๆ  น้อย ๆ

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านธรรมชาติ

 

1.     ชอบสัตว์ ชอบเลี้ยงสัตว์

2.     สนใจสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติรอบตัว

3.     สนใจความเป็นไปในสังคมรอบตัว ชอบศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ การดำรงชีวิต จิตวิทยา

4.     คิดถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม

5.     เข้าใจธรรมชาติของพืชและสัตว์ได้เป็นอย่างดี รู้จักชื่อต้นไม้ ดอกไม้หลายชนิด

6.     ไวต่อความรู้สึก การเปลี่ยนแปลงของดิน ฟ้า อากาศ

7.     สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี

8. มีความรู้เรื่องดวงดาว จักรวาล สนใจวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

 

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านธรรมชาติ

 

1. ให้ลูกปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์

2. ฝึกให้ลูกรู้จักสังเกต เช่น จดบันทึกสังเกตการเจริญเติบโตของต้นไม้

3. พาลูกเที่ยวศึกษาสิ่งแวดล้อม เช่น เดินป่า ไปสวนสัตว์

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจ นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักสิ่งแวดล้อม ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เกษตรกร เป็นต้น

  

 

ความฉลาดด้านการเข้าใจตนเอง

 

เด็กที่เข้าใจตนเองชอบทำงานเพียงลำพัง พวกเขามักเป็นตัวของตัวเอง และแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าสังคม แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของตนและมีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านเข้าใจตนเอง คือ พวกเขาเก่งในการทำงานให้ไปถึงเป้าหมายชัดเจนว่าตนเองชอบหรือไม่ชอบอะไรรักความยุติธรรม

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความด้านการเข้าใจตนเอง

 

1.   ชอบอยู่ตามลำพังคนเดียวเงียบ ๆ คิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง

2.  ติดตามสิ่งที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ มีแรงจูงใจสูง

3.  มีอิสระในความคิด รู้ตัวว่าทำอะไร และพัฒนาความรู้สึกนึกคิดอยู่เสมอ

4.  ชอบใช้เวลาว่างในวันหยุดอยู่คนเดียวมากกว่าที่จะออกไปในที่มีคนมาก ๆ

5.  เข้าใจตนเอง หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึก ความคิดและการแสดงออกของตัวเอง

6. ชอบทำอะไรด้วยตนเองมากกว่าที่จะคอยให้คนอื่นช่วยเหลือ

 

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านการเข้าใจตนเอง

 

1.     ปล่อยให้ลูกได้ทำงานคนเดียวบ้าง

2.     สนับสนุนหากลูกมีความสนใจด้านใดเป็นพิเศษ

3.  เพราะเด็กในกลุ่มนี้มักจะรักสันโดษ พ่อแม่จึงควรให้ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นบ้าง

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพอิสระ เป็นเจ้าของกิจการ เป็นนายจ้างของตัวเอง นักคิด นักเขียน นักบวช นักปรัชญา นักจิตวิทยา  ครู – อาจารย์ เป็นต้น

 


ความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์

 

เด็กที่ฉลาดด้านนี้จะมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม พวกเขาจึงเป็นคนที่มีเพื่อนมาก ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น และมีความสามารถในการเป็นผู้นำสูง

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์ คือ เขาชอบเล่นเป็นกลุ่มเขาสามารถนำผู้อื่นได้ดีเขาสนใจความรู้สึกและมักเห็นอกเห็นใจคนอื่น

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์

1.     ชอบมีเพื่อน ชอบพบปะผู้คนร่วมสังสรรค์กับผู้อื่น

2.     ชอบเป็นผู้นำ หรือมีส่วนร่วมในกลุ่ม

3.     ชอบแสดงออกให้ผู้อื่นทำตาม ช่วยเหลือผู้อื่น ทำงานหรือประสานงานกับผู้อื่นได้ดี

4.     ชอบพูดชักจูงให้ผู้อื่นทำมากกว่าจะลงมือทำด้วยตนเอง

5.     เข้าใจผู้อื่นได้ดี สามารถอ่านกิริยาท่าทางของผู้อื่นได้

6.     มักจะมีเพื่อนสนิทหลายคน

7.   ชอบสังคม อยู่ร่วมกับผู้อื่นมากกว่าจะอยู่คนเดียวที่บ้านในวันหยุด

 

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านมนุษยสัมพันธ์

 

1.   ให้ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกับเด็กในวัยเดียวกัน เช่น พาไปเที่ยวสนามเด็กเล่น

2.  พาลูกเข้าสังคมบ่อย ๆ

3. ให้ลูกมีส่วนร่วมในการพูดคุย แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นนักบริหาร ผู้จัดการ นักธุรกิจ นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ ครู - อาจารย์ เป็นต้น

 

 


ความฉลาดด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย

 

ความฉลาดด้านนี้ คือ เป็นเด็กที่แข็งแรง สามารถทำกิจกรรมและเคลื่อนไหวได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว ชอบแสดงออก และสนุกกับกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะและงานฝีมือ

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย คือ พวกเขาตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางกายภาพได้ดีพวกเขาใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างยอดเยี่ยมพวกเขามักเคลื่อนไหวตลอดเวลาที่เรียนรู้ ทำให้อาจดูเหมือนนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความสามารถทางปัญญาด้านร่างกาย

1.     ชอบการเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง ชอบสัมผัสผู้อื่นเมื่อพูดคุยด้วย

2.     เป็นนักกีฬา กระตือรือร้น ชอบเต้นรำ เล่นละคร หรือบทบาทสมมุติ

3.     ชอบทำอะไรด้วยตนเองมากกว่าจะให้คนอื่นทำให้ตน

4.     ขอบทำมือประกอบท่าทางขณะพูดคุย

5.     ชอบพูดคุยเสียงดัง เอะอะตึงตัง ชอบเล่นหกคะเมนตีลังกากับเพื่อน

6.     ชอบเล่นเครื่องเล่นที่โลดโผน หวาดเสียว เช่น ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไฟเหาะตีลังกา ฯลฯ

7.     ชอบเรียนวิชาพลศึกษา งานประดิษฐ์ ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง

8.     ชอบลงมือกระทำจริงมากกว่าการอ่านคู่มือแนะนำหรือดูวิดีโอแนะนำ

9.     ชอบคิดหรือใช้ความคิดขณะออกกำลังกาย เดิน วิ่ง

 

 

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย

 

1.     ปล่อยให้ลูกได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ

2.     สนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่ได้แสดงออก อย่างเช่น กีฬา การแสดง การเต้น

3.     ใช้การสอนสิ่งต่าง ๆ ผ่านการให้ลงมือปฏิบัติจริง


อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นนักแสดง นักกีฬา นาฏกร นักฟ้อนรำ นักประดิษฐ์ นักปั้น ช่างซ่อมรถยนต์ ศัลยแพทย์ เป็นต้น

  

 

 

ความฉลาดด้านดนตรี

 

เด็กที่ฉลาดด้านดนตรีจะมีความว่องไวต่อเสียง และสามารถเชื่อมโยงระหว่างเพลงและเครื่องดนตรีได้ พวกเขามักจะชอบร้องเพลงและใช้เทคนิคในการเรียนรู้ผ่านบทเพลงและจังหวะต่าง ๆ ได้

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านดนตรี คือ พวกเขามักหลงเสน่ห์ดนตรีและเสียงเพลงทำให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นคำคล้องจองหรือเป็นแบบแผน ในขณะที่คนอื่นทำไม่ได้พวกเขาซึมซับและจดจำข้อมูลเป็นแบบแผนและบทกลอนหรือคำคล้องจอง

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านดนตรี

1.     ชอบร้องรำทำเพลง เล่นดนตรี

2.     ชอบเสียงต่าง ๆ ชอบธรรมชาติ

3.     แยกแยะเสียงต่าง ๆ ได้ดี รู้จักท่วงทำนอง เรียนรู้จังหวะดนตรีได้ดี

4.     ชอบผิวปาก ฮัมเพลงเบา ๆ ขณะทำงาน

5.     มักจะเคาะโต๊ะ หรือขยับเท้าตามจังหวะเมื่อฟังเพลง

6.     สามารถจดจำเสียงที่เคยได้ยินแม้เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งได้

7.     เล่นเครื่องดนตรีได้อย่างน้อย 1 ชิ้น

8.     มักจะได้ยินเสียงเพลงจากภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์หรือวิทยุก้องอยู่ในหูตลอดเวลา

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านดนตรี

 

1.     สนับสนุนให้ลูกเล่นดนตรี โดยจัดหาเครื่องดนตรีให้ หรือส่งลูกไปเรียนดนตรี

2.     เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความสามารถ เช่นเล่นดนตรีโชว์ในงานโรงเรียน หรืองานเลี้ยง

3.     พาลูกไปดูการแสดงดนตรีที่ลูกสนใจ

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง  นักวิจารณ์ดนตรี เป็นต้น

 

 


ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ และศิลปะ

 

เด็กที่มีความฉลาดด้านนี้จะคิดและสื่อสารด้วยภาพ พวกเขาชอบเล่นเกมส์ต่อรูปภาพ เช่น จิ๊กซอว์ เต็มไปด้วยจินตนาการ และชื่นชอบงานศิลปะ นอกจากนี้ พวกเขายังจดจำทิศทางได้ดี และอ่านแผนที่เก่ง

จุดเด่นของเด็กที่มีความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ คือ เขาสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ในหัว และวิเคราะห์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาสามารถจินตนาการและสร้างโลกใหม่ขึ้นมาในความคิด เขาสามารถจัดการและเล่นสิ่งของต่าง ๆ ได้ดี และมีทักษะในการใช้มือที่ดี

 

ลักษณะของบุคคลที่มีจุดเด่นหรือมีความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ และศิลปะ

1.     ชอบวาดเขียน มีความสามารถทางศิลปะ

2.     ชอบฝันกลางวัน ชอบหลับตาคิดถึงภาพในความคิด จินตนาการ

3.     ชอบวาดภาพ ขีดเขียนสิ่งต่าง ๆ ลงในกระดาษ สมุดจดงาน

4.     ชอบอ่านแผนที่ แผนภูมิต่าง ๆ

5.     ชอบบันทึกเรื่องราวไว้ในภาพถ่ายหรือภาพวาด

6.   ชอบเล่นเกมต่อภาพ (Jigsaw Puzzles) เกมจับผิดภาพ หรือเกมที่เกี่ยวกับภาพ

7.     ชอบเรียนวิชาศิลปศึกษา เรขาคณิต พีชคณิต

8.     ชอบวาดภาพในลักษณะมุมมองที่แตกต่างออกไปจากธรรมดา

9. ชอบดูหนังสือที่มีภาพประกอบมากกว่าหนังสือที่มีแต่ข้อความ

 

 

วิธีพัฒนาความฉลาดลูกด้านมิติสัมพันธ์ และศิลปะ

 

1.     ปล่อยให้ลูกได้วาดภาพ หรือทำงานประดิษฐ์อย่างอิสระโดยไม่ตีกรอบให้กับสิ่งที่ลูกทำ

2.     พาไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ หรืองานแสดงภาพ

3.     ฝึกให้ลูกสเก็ตช์ภาพเหมือน หรือหัดถ่ายรูป

 

อาชีพที่เหมาะสม

 

ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มีความเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นศิลปิน สถาปนิก มัณฑนากร นักประดิษฐ์ ฯลฯ

 

 

 

 

เมื่อพ่อแม่ สามารถเข้าใจจุดอ่อนจุดแข็งของเด็กๆ  ก็สามารถช่วยเด็กให้ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ โดยให้ข้อสังเกตว่าการนำเรื่อง ทฤษฎีพหุปัญญา มาปรับใช้ในห้องเรียนได้เปลี่ยนทั้งการสอนของครู และการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน ก็สามารถช่วยให้ลูกพัฒนาความฉลาดด้านในแต่ละด้านได้เป็นอย่างดี 

 

max biocare ยังสนับสนุนให้เด็กเติบโตได้แบบเต็มศักยภาพ เพิ่มความฉลาดให้กับลูกคุณในทุก ๆ ด้าน ด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Fish-oil Omega DHA ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาทูน่า คุณภาพสูงจากประเทศออสเตรเลีย  ผ่านการพัฒนาและมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 90 งานวิจัย จนกระทั่งได้ Fish-oil Omega DHA แคปซูล ที่มี DHA เข้มข้นเป็นปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการพัฒนาสมอง สายตาและภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหาสมาธิสั้น เพิ่มการเรียนรู้และความจำ (IQ) ลดความก้าวร้าว (EQ) ในเด็ก



Fish-oil Omega DHA ฟิช-ออยล์ โอเมก้า ดีเอชเอ

 

 

 

 

 

 

สั่งซื้อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 

inbox : https://www.facebook.com/maxbiocarethailand/

 

Line : @maxbiocare (มี@)

หรือClick 👉 https://line.me/R/ti/p/%40maxbiocare

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  

http://th.theasianparent.com/ความฉลาด-8-ด้าน

http://greatbooks.lnwshop.com/article/81/ความฉลาด-8-ด้านตามทฤษฎีพหุปัญญา-8-multiple-intelligences

https://www.mydnathailand.com/พหุปัญญา_Und_8_Und_ประการของ_Und_Dr_Dot__Und_Howard_Und_Gardner/557ab0f47a0607806d034b42

http://pantae.com/content/367/พหุปัญญา


ผสานงานวิจัยและธรรมชาติ สู่ความน่าเชื่อถือ ในการเป็นที่สุดของการดูแล สุขภาพ สําหรับคนรักสุขภาพ





67/41 ถนน รามอินทรา

ซอยรามอินทรา 64 แขวงคันนายาว

เขตคันนายาว 

กรุงเทพ 10230 



Max biocare Thailand@Max biocareInstagram