พ่อแม่ควรระวัง แคลเซียมจะหลงทาง ถ้าลูกขาดวิตามินเค - Maxbiocare Thailand
พ่อแม่ควรระวัง แคลเซียมจะหลงทาง ถ้าลูกขาดวิตามินเค
4 พฤศจิกายน 2019

เมื่อเราพูดถึงวิตามินเค  หลายคนมักโฟกัสว่า มีประโยชน์ช่วยในการแข็งตัวของเลือด แท้จริงแล้ว วิตามินเค นั้นมีบทบาทมากต่อความแข็งแรงของกระดูกอีกด้วย ซึ่งลูกมีความจำเป็นต้องได้รับวิตามินเค เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย หากลูกของเราขาดวิตามินเค อาจเกิดอันตรายจากการที่แคลเซียมถูกลำเลียงไปในบริเวณที่ไม่ถูกต้อง 



วิตามินเค คืออะไร ?




วิตามินเค มีชื่อภาษาอังกฤษ คือ Koagulation Vitamin , Antihemorrhagic Factor หรือ เมนาไดโอน ( Menadione ) เป็นสารอาหารที่จำเป็นเกี่ยวกับเลือด รวมถึงหน้าที่สำคัญหลายๆ อย่างในร่างกาย โดยเฉพาะการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก ที่แม้แคลเซียมจะเป็นพระเอกหลัก แต่ถ้าไม่มีวิตามินเค ก็จะขาดสารลำเลียง เพราะวิตามินเค มีส่วนช่วยในการก่อตัวของกระดูกและการเรียงตัวของเนื้อกระดูก เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียม ทำให้กระดูกมีความแข็งแรงและไม่เปราะง่าย

 

วิตามินเค จัดอยู่ในประเภทของวิตามินที่ละลายในไขมัน ร่างกายสามารถผลิตได้เองในลำไส้เล็ก หรือได้จากการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเค อย่างผักผลไม้ทั่วไป ซึ่งพบได้มากกว่าวิตามินดี โดยแหล่งสารอาหารที่มีวิตามินเค ได้แก่ ผักกระเฉด กะหล่ำปลี มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง หรือในไข่แดง ตับหมู นมวัว เป็นต้น


นอกจากนี้ วิตามินเค ยังพบได้ในน้ำมันถั่วเหลือง โดยมีปริมาณที่สูงพอสมควร ซึ่งเพียงพอสำหรับปริมาณที่ร่างกายต้องการวิตามินเคต่อวัน ซึ่งก็คือ  65-80 ไมโครกรัมต่อวัน โดยสามารถใช้น้ำมันถั่วเหลืองในการประกอบอาหารต่างๆ ทั้ง ผัด และทอด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินเคเป็นประจำทุกวัน 




แคลเซียมคืออะไร ?




แคลเซียม คือ แร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบส่วนมากของร่างกายมากกว่าแร่ธาตุอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกและฟัน โดยแคลเซียมจะจับตัวร่วมกับฟอสฟอรัสเรียกว่า "Calcium Phosphates" เพื่อช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนี้เรายังพบแคลเซียมจับตัวอยู่กับโปรตีนในเลือดและพบแคลเซียมอิสระอยู่ภายในร่างกายด้วย


แคลเซียมยังมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการทางชีวเคมีภายในเซลล์ต่างๆ ช่วยพัฒนาและสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ควบคุมการทำงานของหลอดเลือด กล้ามเนื้อ ควบคุมการเต้นของหัวใจ การส่งความรู้สึกไปตามเส้นประสาท และเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนบางชนิดด้วย


ปริมาณแคลเซียมโดยเฉลี่ยที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของผู้บริโภคด้วย  ในเด็กอายุไม่เกิน 3 ปีควรได้รับแคลเซียม ปริมาณ 400-800 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนเด็กอายุ 3-10 ปีควรได้รับแคลเซียม ปริมาณ 800 มิลลิกรัมต่อวัน


โดยปกติแล้วสิ่งที่ทำให้แคลเซียมถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายคือ วิตามินดี แต่โดยธรรมชาติ แม้จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว แคลเซียมกลับไปเกาะอยู่ในหลอดเลือด และลิ้นหัวใจ ทำให้เส้นเลือดแข็งตัว และเป็นปัญหาต่อระบบหมุนเวียนโลหิตได้

วิตามินเค จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำแคลเซียมไปเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน 




แคลเซียมจะหลงทาง หากขาดวิตามินเค ?






การขาดวิตามินเค นอกจากจะทำให้การแข็งตัวของเลือดเกิดขึ้นช้ากว่าปกติ หากมีแผลเลือดจะไหลไม่หยุด หรือหยุดได้ยาก ยังทำให้อาจเกิดอันตรายจากการที่แคลเซียมถูกลำเลียงไปในบริเวณที่ไม่ถูกต้อง เช่น หลอดเลือดหรืออวัยวะที่ก่อให้เกิดอันตราย หากแคลเซียมมีมากเกินไปจะกลายเป็นกระดูกงอก หรือจับกับหลอดเลือดแดงจนกลายเป็นหินปูนได้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย หากรับประทานแคลเซียมมากเกิน แต่ไม่รับประทานอาหารที่มีวิตามินเคร่วมด้วย 


วิตามินเค จึงมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Osteoblast ของกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ในการนำแคลเซียมเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก และยังไปช่วยยับยั้งการสลายตัวของกระดูกไปพร้อมๆ กัน 

จะเห็นว่า การที่กระดูกจะแข็งแรงนั้น ไม่ได้อาศัยแค่แคลเซียมและวิตามินดี เท่านั้น วิตามินเค ก็เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง และยิ่งสำคัญมาก เมื่อต้องการเพิ่มความสูงให้เด็กๆ การกินวิตามินเค ควบคู่กับแคลเซียมและวิตามินดี จะทำให้เห็นผลดีกว่าแน่นอน




เพราะฉะนั้น พ่อแม่อย่ามองข้ามวิตามินบางอย่าง ควรให้ความสำคัญด้วยการรับประทานอาหารให้ครบถ้วน และหมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ เพื่อจะได้ทราบว่าร่างกายต้องการหรือขาดอะไร เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดี และห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ 


นอกจากนี้แล้ว พ่อแม่ควรให้ลูกได้รับวิตามินเคอย่างเต็มที่ ด้วยการให้ลูกทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเค อย่าง KDCal จาก max biocare ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อความต้องการของเด็ก ทั้งแคลเซียม, วิตามินดี และวิตามินเค ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อเพิ่มความสูงให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะ เรียกได้ว่า เม็ดเดียวครบจบ ไม่ต้องหากินเพิ่ม เพื่อบำรุงกระดูกและฟัน โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ต้องเร่งสร้างมวลกระดูก เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนในอนาคต






K.D.Cal เค.ดี.แคล





สั่งซื้อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 

inbox : https://www.facebook.com/maxbiocarethailand/

 

Line : @maxbiocare (มี@)

หรือClick 👉 https://line.me/R/ti/p/%40maxbiocare

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  

https://mgronline.com/goodhealth/detail/9600000046983

https://amprohealth.com/nutrition/vitamin-K/

https://www.pharmanordsea.co.th/products/bio-calcium-d3-k1

https://www.haijai.com/3930/#targetText=วิตามินเค%20(Vitamin%20K)%20เป็น,แข็งแรงและไม่เปราะง่าย

https://www.honestdocs.co/calcium-strengthens-bone-teeth

https://www.pobpad.com/อาหารที่มีแคลเซียม-และป#targetText=ปริมาณแคลเซียมโดยเฉลี่ยที่,800-1%2C000%20มิลลิกรัมต่อวัน

 


ผสานงานวิจัยและธรรมชาติ สู่ความน่าเชื่อถือ ในการเป็นที่สุดของการดูแล สุขภาพ สําหรับคนรักสุขภาพ





67/41 ถนน รามอินทรา

ซอยรามอินทรา 64 แขวงคันนายาว

เขตคันนายาว 

กรุงเทพ 10230 



Max biocare Thailand@Max biocareInstagram